วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ตราประจำจังหวัดสมุทรปราการ




ความหมายตราจังหวัดสมุทรปราการ

จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อสมัยก่อน การคมนาคมมีทั้งทางน้ำ และทางบก ทางน้ำมีตามลำน้ำเจ้าพระยา และตามลำคลองต่าง ๆ เช่น คลองสำโรง คลองบางเหี้ย ทางบก มีถนนหนทาง ใช้เดินได้ แต่ยังไม่ค่อยเรียบร้อยนัก นอกจากทางรถยนต์รางสายปากน้ำ ของเอกชนสายหนึ่ง เดินระหว่าง กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ระยะ 20 กิโลเมตร สถานที่กรุงเทพฯ อยู่ที่ริมคลอง ตรงข้ามกับสถานีรถไฟหัวลำโพง สถานีปลายทาง อยู่ริมตลาด ในอำเภอเมือง สมุทรปารการ ค่าโดยสาร 1 บาท 50 สตางค์

ทางน้ำมีเรือยนต์ บริษัทเดินเรือ รับส่งคนโดยสาร ที่ในคลองสำโรง ถึงจังหวัดสมุทรปราการ ค่าโดยสาร 50 สตางค์ (จากหนังสือนำทางทั่วราชอาณาจักร โดยหลวงนฤราชภักดี พ.ศ. 2469)
พระสมุทรเจดีย์ เป็นปูชนียสถานทางพุทธศาสนา ของชาวเมืองนี้ ภายในเจดีย์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระไตรปิฎก เพื่อให้ชนรุ่นหลัง ได้สักการะกราบไหว้ องค์พระเจดีย์ ลงมือสร้างในสมัยของ พระบาทสมเด็ดพระพุทธเลิศล่านภาลัย ภายหลังที่ได้สร้างป้อมปืน ป้องกันการรุกรานทางน้ำขึ้น 6 ป้อม โดยทรงเห็นว่า ท้ายป้อมผีเสื้อสมุทร มีเกาะอยู่เกาะหนึ่ง จึงทรงดำริสร้างสถูปขึ้นไว้ โดยโปรดเกล้าฯ ให้หาหิน และอิฐมาถมเกาะนี้ไว้ ให้มั่นคง พอเข้าราชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตน์โกสินทร์ องค์พระสมุทรเจดีย์ จึงสร้างเสร็จตาม กระแสพระราชดำ

พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ




ข้อมูลพิพิธภัณฑ์ทหารเรือ

อยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนนายเรือ บนถนนสุขุมวิท จากแยกบางนาไปสำโรงประมาณ 10 กม. ภายในพิพิธภัณฑ์เป็นที่รวมของข้อมูลทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับกองทัพเรือไทยและยุทธนาวีครั้งสำคัญๆ นอกจากนั้น ยังมีเรือจำลองสมัยต่างๆ เช่น เรือที่ใช้ในพระราชพิธีกระบวนเรือพยุหยาตราชลมารค เรือรบหลวงพระร่วง เรือหลวงมัจฉานุซึ่งเป็นเรือดำน้ำลำแรกของกองทัพเรือไทย เปิดให้เข้าชมในวันราชการตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. โดยไม่เสียค่าผ่านประตู รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ โทร. 394-1997

พระสุมทรเจดีย์กลางน้ำ




ข้อมูลพระสมุทรเจดีย์

อยู่ที่ตำบลปากคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตรงกันข้ามกับศาลากลางจังหวัด แต่เดิมพระเจดีย์นี้ตั้งอยู่บนเกาะกลางปากแม่น้ำเจ้าพระยา ท้ายป้อมผีเสื้อสมุทร ต่อมาชายตลิ่งฝั่งขวาของแม่น้ำตื้นเขินงอกออกมาเชื่อมติดกับเกาะอันเป็นที่ตั้งพระเจดีย์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างแต่ยังไม่ทันเสร็จก็สิ้นรัชกาล พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างต่อเป็นพระเจดีย์สูง
20 เมตร ต่อมาในรัชกาลที่ 4 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนรูปทรงพระเจดีย์แล้วก่อให้สูงขึ้นอีกเป็น 38 เมตร ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระชัยวัฒน์และพระห้ามสมุทรไว้

ตลาดบางน้ำผึ้ง



ข้อมูลตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

จุดมุ่งหมายหลัก สร้างตลาดขึ้นมาใหม่เพื่อใช้เป็น สถานที่สำหรับขายสินค้าของชุมชนบางน้ำผึ้ง และตำบลใกล้เคียงฝั่งเมืองพระประแดง จนถึงปัจจุบันเติบโตจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดสมุทรปราการ นับเป็นตลาดน้ำแห่งใหม่ของเมืองไทยเที่ยวได้ชิมได้ชมได้ที่ ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

องค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้งและประชาชนในพื้นที่ ปลุกวิถีชีวิตดั้งเดิมขึ้นมาใหม่ พร้อมใจสร้าง "ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง" เพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าผลิตผลทางการเกษตรและได้ขยายกรอบการดำเนินงานให้กว้างขึ้น เพิ่มสินค้าในตลาดให้หลากหลายทั้งของกินของใช้ของฝากนานาชนิด จัดเป็นซุ้มให้มีทางเดินยาวกว่า 2 กิโลเมตร ขนานไปกับคลองซอยสายเล็ก ๆ ที่แตกแขนงจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามาในพื้นที่ที่ทำการเกษตรของชาวบ้าน จัดจำหน่ายต้นไม้นานาพันธุ์, ปลาสวยงามหลากชนิด, และผลิตผลของชาวบ้าน เช่น มะพร้าวอ่อน มะม่วง น้ำดอกไม้ กล้วยหอม ชมพู่มะเหมี่ยว, ขนมหวานพื้นเมืองฝีมือ ชาวบ้าน เช่น ขนมถ้วย ขนมจาก กล้วยแขก ม้าฮ่อ ขนมตระกูลทอง กาละแมกวน ฝอยเงินที่ใช้ไข่ขาวต้มในน้ำเชื่อม รสหวานชุ่มคอ หมี่กรอบโบราณ ฯลฯ อาหารคาว เช่น ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน ไส้กรอกโบราณ ห่อหมกหมู หอยทอดในถาดขนมครก ไก่สะเต๊ะ น้ำพริกต่าง ๆ พร้อมเลือกผักเคียงข้างจาน เช่น ผักกระถิน ผักบุ้ง ผักหนาม ผักดองชนิดต่าง ๆ ที่ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการแปรรูปพืชผักให้ประทานนอกฤดูกาล
นอกจากนี้ในตลาดน้ำใกล้กรุง ฯ แห่งนี้ยังเป็น ศูนย์รวมสินค้า OTOP ที่สร้างสรรค์จากคนในชุมชนบางน้ำผึ้ง และตำบลใกล้เคียงในจังหวัดสมุทรปราการ เช่น ดอกไม้เกล็ดปลา บ้านธูปสมุนไพร ผลิตภัณฑ์จากทะเลอย่างกุ้งแห้ง กะปิ หอยดอง ภาพประดิษฐ์จากรกมะพร้าว ของตกแต่งบ้าน ดอกหญ้าหลากสี,โมบายล์ ลูกตีนเป็ดรูปร่างแปลกตา เป็นต้น

วัดบางพลีใหญ่


ข้อมูลวัดบางพลีใหญ่

ตั้งอยู่ริมคลองสำโรง ที่ตำบลบางพลีใหญ่ ห่างจากประตูน้ำสำโรงประมาณ 13 กม. เดิมชื่อวัดพลับพลาไชยชนะสงคราม สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ในชัยชนะของพระองค์ ต่อมาได้อัญเชิญพระพุทธรูปองค์ใหญ่สมัยสุโขทัยปางมารวิชัยลืมเนตร หน้าตักกว้าง 3 ศอก 1 คืบ เนื้อเป็นทองสัมฤทธิ์ เป็นที่เลื่อมใสของประชาชนโดยทั่วไปนาม หลวงพ่อโต วัดนี้จึงมีชื่อว่า วัดหลวงพ่อโต อีกชื่อหนึ่ง ชาวบางพลีได้อัญเชิญหลวงพ่อโตจำลองลงเรือในพิธีโยนบัวหรือรับบัวทุกปี ในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11

เมืองโบราณ


ข้อมูลเมืองโบราณ

ตั้งอยู่ในเขตตำบลบางปูใหม่ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 33 ถนนสุขุมวิท (สายเก่า) ห่างจากตัวจังหวัด 8 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่รวบรวมสถานที่สำคัญ ๆ ในประเทศ มีพื้นที่ประมาณ 800 ไร่ เริ่มก่อสร้างเมื่อปลายปี 2506 ปูชนียสถานที่สำคัญๆ เช่น เขาพระวิหาร ปราสาทหินพนมรุ้ง วัดมหาธาตุสุโขทัย พระพุทธบาทสระบุรี พระธาตุเมืองนคร พระธาตุไชยา ฯลฯ โดยสร้างให้มีขนาดเล็กลง บางแห่งเท่าแบบจริงการสร้าง ฝีมือประณีต นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งรวบรวมศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านที่นับวันจะสูญหายไปจากสังคมยุคใหม่ ผู้ที่ต้องการศึกษาค้นคว้าเรื่องราวของประเทศไทยจะศึกษาได้จากเมืองโบราณแห่งนี้


เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา
08.00-17.00 น. อัตราค้าเข้าชม คนไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท อายุต่ำกว่า 5 ปีไม่เสียค่าเข้าชม ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 200 บาท(รวมค่ารถจักรยาน) ค่านำรถยนต์เข้าชมคันละ 50 บาท รถบัส 200 บาท ค่าเช่ารถจักรยาน 50 บาท

หมายเหตุ - ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 เป็นต้นไป เมืองโบราณปรับค่าเข้าชม Ancient Siam สำหรับชาวไทย ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 75 บาท

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทเมืองโบราณ จำกัด ตำบลบางปู กิโลเมตรที่ 33 โทร. 0 2323 9253, 0 2709 1644 สำนักงานกรุงเทพฯ มุมอนุสาวรีย์ ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง โทร. 0 2224 1057, 0 2226 1936-7 หรือที่เว็บไซต์ www.Ancientcity.com

การเดินทาง รถยนต์ ใช้เส้นทางด่วน ปลายทางที่สำโรง-สมุทรปราการ ถึงสามแยกสมุทรปราการให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสุขุมวิทสายเก่า (ไปทางบางปู) ประมาณกิโลเมตรที่ 33 เมืองโบราณจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ หรือ รถโดยสารประจำทาง สาย 25, 102, 145 รถโดยสารปรับอากาศ สาย 25, 102, 142, 142, 507, 508, 511 (สายใต้ใหม่-ปากน้ำ), 536 ไปลงตลาดปากน้ำ แล้วต่อรถสองแถวสาย 36 หรือสองแถว ปากน้ำ-วัดตำหรุ, ปากน้ำ-นิคมบางปู และ ปากน้ำ-คลองด่าน ผ่านเมืองโบราณ

สถานตากอากาศบางปู


ข้อมูลสถานตากอากาศบางปู

อยู่ในเขตตำบลบางปูใหม่ ริมถนนสุขุมวิท ประมาณกิโลเมตรที่ 37 ตรงข้ามกับนิคมอุตสาหกรรมบางปู ห่างจากตัวเมืองประมาณ 11 กิโลเมตร เป็นสถานตากอากาศที่มีชื่อเสียงมาเป็นเวลานานและเป็นสถานพักฟื้น พักผ่อน ของกรมพลาธิการทหารบก ภายในมีร้านอาหารบริการ ในวันเสาร์ตั้งแต่เวลา 17.00 – 21.00 น. จะมีกิจกรรมพิเศษเปิดฟลอร์ลีลาศกับเสียงเพลงสุนทราภรณ์อันไพเราะ โดยคิดค่าดนตรีภายในฟลอร์ลีลาศเพียงคนละ 50 บาท นอกจากนี้ในช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงปลายเดือนเมษายน บริเวณบางปูจะมีนกนางนวลอพยพมาหากินอยู่ตามชายทะเล เหมาะที่จะมาเที่ยวชมในยามเย็นพร้อมกับชมพระอาทิตย์อัสดง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2323 9138, 0 2323 9983
การเดินทาง จากสามแยกสมุทรปราการให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสุขุมวิท (สายเก่า) ประมาณกิโลเมตรที่ 37 ให้กลับรถจะพบสถานตากอากาศบางปูอยู่ริมถนนซ้ายมือ และรถโดยสารปรับอากาศ สาย ปอ. 25, 102, 142, 142, 507, 508 และ 511 รถโดยสารประจำทางธรรดาสาย 25, 102 และ 145 ไปลงตลาดปากน้ำ แล้วต่อรถเมล์เล็กสาย 36, รถสองแถวปากน้ำ-วัดตำหรุ, ปากน้ำ-นิคมบางปู และปากน้ำ-คลองด่าน